เมื่อ 8 ปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ชั้นบรรยากาศที่มีชื่อเสียง (ที่ดี ไม่ใช่กลุ่มทุจริต) ได้ทำนายการเย็นตัวของโลกจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า บางทีอาจนำมาซึ่งยุคน้ำแข็งขนาดย่อมด้วยซ้ำ พวกเขาถูกเยาะเย้ย ตอนนี้จากข้อมูลที่ถูกบันทึกเป็นทางการแล้ว ชี้ให้เห็นว่าไม่มีภาวะโลกร้อนเกิดขึ้น ความจริงนี้คงจะไม่ขัดขวางพวกกลุ่มอีลีตที่ต้องการพลักดันเรื่องภาวะโลกร้อนให้เป็นภาวะฉุกเฉิน กลุ่มเทคโนแครตคิด (Technocratic) ค้นกลโกงโลกร้อนเพื่อพลิกโลกไปสู่การพัฒนาแบบ "ยั่งยืน" ตาม "วาระ 2030" แต่พวกเขากำลังสูญเสียการควบคุมการเล่าเรื่องโกหก
ข้อมูลที่เผยแพร่ล่าสุดจาก National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) แสดงให้เห็นว่าไม่มีภาวะโลกร้อนในช่วงแปดปีที่ผ่านมา และข้อมูลดาวเทียมของ NASA ยืนยันหลักฐานดังกล่าว ซึ่งแสดงว่าไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีกับอีกห้าเดือน ตามข้อมูลของ Steve Milloy จาก JunkScience แต่ฝ่ายซ้ายรีบเตือนผู้คนไม่ให้ด่วนสรุปว่าโลกไม่ได้กำลังจะกลายเป็นลูกบอลเพลิง – ที่มาของแหล่งงข้อมูล –
แปลข้อความจากในทวิตเตอร์
มันเป็นทางการ:
ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลา 8 ปี 5 เดือน ตามข้อมูลดาวเทียมของ NASA
ไม่มีภาวะโลกร้อนแม้ว่าจะปล่อย CO2 ประมาณ 475 พันล้านตันก็ตาม
ภาวะโลกร้อนของ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวงทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
หลักฐานที่มากมายเหลือๆ ว่ามีพายุเฮอริเคนลูกใหญ่ลดลงเป็นประวัติการณ์ใน พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดไว้ว่าสภาพแวดล้อมทั่วโลกไม่ได้รุนแรงขึ้นและต่อเนื่องขึ้นแบบทวีคูณ ฐานข้อมูลสื่อและรัฐบาล
และขณะนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกำลังเผชิญกับความหนาวเย็นเป็นประวัติการณ์ในฤดูหนาวที่รุนแรง โดยภูเขา Washington, N.H. ลดลงถึง -45.5 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ -7 องศาเซลเซียส
แปลข้อความจากในทวิตเตอร์
NOAA ทำให้เป็นทางการ
8 ปีที่ผ่านมา… โลกเย็นลงในอัตรา 0.11°C/ทศวรรษ…. แม้ว่าจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 450,000 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 14% ของ CO2 ที่มนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมดในชั้นบรรยากาศ
ภาวะโลกร้อนของ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ออก “การตรวจสอบข้อเท็จจริง” ของทวีต Milloy ด้านบนเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พวกเขาไม่สามารถอธิบายข้อมูลได้ แต่ได้พยายามให้ผู้อ่านมั่นใจว่าแปดปีของการทำความเย็นทั่วโลกไม่ใช่แนวโน้ม
นี้คือสิ่งที่พวกเขาเขียนในความพยายามทำให้ผู้คนยังคงหลงอยู่ในความเชื่อโลกร้อนและคงความกลัวในใจประชาชน (มีแปลไทยด้านล่างครับ)
“Fact Check-Eight cooler years cannot be extrapolated to draw conclusions on long-term global warming
At least several decades’ worth of data is needed to infer trends in global temperatures, climate experts told Reuters, and while short-term fluctuations might lead to several years that are cooler than a peak year preceding them, the longer-term trend is still upward.
Users online are sharing a post showing graphed temperature data over the past eight years from the National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) alongside claims that the data mean the Earth is cooling despite ongoing greenhouse gas emissions … The circulating graph shows NOAA “Global Land and Ocean” temperature data from 2015 to 2022, with 2016 as the hottest year on record and yearly fluctuations after that adding up to an average decrease of about one tenth of one degree Celsius over the decade. The graph was published in January.”
“การตรวจสอบข้อเท็จจริง แปดปีที่อากาศเย็นลงไม่สามารถคาดการณ์เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนในระยะยาวได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศกล่าวกับรอยเตอร์ว่าต้องการข้อมูลอย่างน้อยหลายทศวรรษเพื่อสรุปแนวโน้มของอุณหภูมิโลก และแม้ว่าความผันผวนในระยะสั้นอาจนำไปสู่หลายปีที่เย็นกว่าปีสูงสุดก่อนหน้า แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็น ขึ้น ผู้ใช้ออนไลน์แชร์โพสต์ที่แสดงข้อมูลอุณหภูมิแบบกราฟในช่วงแปดปีที่ผ่านมาจาก National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) พร้อมกับอ้างว่าข้อมูลดังกล่าวหมายความว่าโลกกำลังเย็นลงแม้จะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องก็ตาม … กราฟหมุนเวียนของ NOAA “โลกและมหาสมุทร" แสดงข้อมูลอุณหภูมิของมหาสมุทรตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2565 โดยปี 2559 เป็นปีที่ร้อนที่สุดและความผันผวนในแต่ละปีหลังจากนั้นจะเพิ่มการลดลงโดยเฉลี่ยประมาณหนึ่งในสิบของหนึ่งองศาเซลเซียสตลอดทศวรรษ กราฟได้รับการเผยแพร่ในเดือนมกราคม”
สำนักข่าวรอยเตอร์เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่าผู้เชี่ยวชาญสภาพอากาศ ที่พยายามสร้างความตื่นตระหนก ได้ทำนายผิดมาหลายทศวรรษแล้ว อย่างน้อยห้าสิบปี แต่คราวนี้ “ผู้เชี่ยวชาญ” มั่นใจว่าถูกต้อง และคงย่ำไปเรื่อยๆ แม้ว่าไม่ใช่ความจริงว่า
รถของคุณยังคงทำลายโลก — เชื่อรอยเตอร์
เหมือนเรื่องโควิดและวัคซีน เราไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามกับนักวิทยาศาสตร์ที่คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ทำนายจุดจบของมนุษยชาติและอารยธรรม และเราก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เชื่อข้อมูลบนพื้นฐานความจริงททางสถิติ